AI for Marketing and E-Commerce: The Future of Smart Business Transformation
Insights from Assoc. Prof. Natthaphon Yongpaiboon at TESE 2025
AI for Marketing and E-Commerce: The Future of Smart Business Transformation
Insights from Assoc. Prof. Natthaphon Yongpaiboon at TESE 2025
ในยุคที่เทคโนโลยีเปลี่ยนโลกธุรกิจทุกวัน “AI” ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือเสริมอีกต่อไป แต่ได้กลายเป็น “ผู้ช่วยอัจฉริยะ” ที่เข้ามาทำงานแทนมนุษย์ในหลายมิติของ Marketing และ E-Commerce
อ.ณัฐพล ยงไพบูลย์ ได้กล่าวไว้ในงาน TESE 2025 ว่า “เรากำลังเข้าสู่ยุคที่ AI Agent ไม่ได้แค่ช่วยคิด แต่ลงมือทำแทนเราได้จริง” — และนี่คือสาระสำคัญที่ผู้ประกอบการยุคดิจิทัลควรรู้ เพื่อเตรียมพร้อมสู่อนาคตของการตลาดอัตโนมัติอย่างยั่งยืน
🚀 AI Trends: When AI Shops for Us
AI กำลังเปลี่ยนโฉมโลกของการช้อปปิ้งออนไลน์ โดยเฉพาะในฝั่งผู้บริโภค
- AI Shopping Agent – ผู้ช่วยช้อปปิ้งอัตโนมัติ
ระบบ AI สามารถค้นหา เปรียบเทียบ และสั่งซื้อสินค้าแทนเราได้ เช่น ฟีเจอร์ของ OpenAI ที่เชื่อมกับ Amazon หรือ Perplexity AI ที่สรุปข้อมูล รีวิว และลิงก์ซื้อได้ภายในหน้าเดียว - AI Agent for Automated Transactions
เพียงสั่งว่า “ต้องการซื้อสินค้า A รุ่น B” AI จะค้นหาข้อมูลจากหลายแพลตฟอร์ม เลือกสินค้าที่ตรงสเปคที่สุด และดำเนินการซื้อให้โดยอัตโนมัติ - E-commerce Value Boost by AI
จากรายงานของ Momentum Works และ Lazada คาดการณ์ว่า หากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ใช้ AI อย่างเต็มรูปแบบ มูลค่าตลาดอีคอมเมิร์ซจะสูงถึง 131 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 4.5 ล้านล้านบาท) ภายใน 5 ปี
📊 6 Key Applications of AI in E-Commerce
อ.ณัฐพล ได้สรุป 6 พาร์ทสำคัญของการประยุกต์ใช้ AI ในธุรกิจ E-commerce ดังนี้
- Content Creation – ใช้ AI สร้างวิดีโอ รูปภาพ และข้อความโฆษณา
- Personalization – ระบบแนะนำสินค้าอัจฉริยะ (Product Recommendation)
- Conversation – Chatbot และ AI Agent ที่เข้าใจ Intent ของลูกค้า
- A/B Testing – ทดสอบโฆษณาหลายเวอร์ชันโดยใช้ AI วิเคราะห์ผล
- Optimization – วิเคราะห์ CTR, Conversion Rate เพื่อปรับปรุงแคมเปญ
- Automation – งานรูทีน เช่น ลิสต์สินค้า หรืออัปเดตข้อมูล ทำได้โดยอัตโนมัติ
💡 Benefits of Generative AI in Content Creation
การใช้ Generative AI ช่วยให้ธุรกิจสร้างสรรค์คอนเทนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว
- Speed: ลดเวลาสร้างวิดีโอหรือโพสต์จาก 2–3 วัน เหลือเพียงครึ่งวัน
- Idea Generation: เป็นเครื่องมือจุดประกายความคิดใหม่ ๆ สำหรับแคมเปญ
- Omnichannel Content: ผลิตคอนเทนต์ได้ครบทุกแพลตฟอร์ม เช่น TikTok, IG, Facebook, YouTube
- Cost Reduction: ลดต้นทุนการผลิตจากหลักหมื่น เหลือเพียงหลักร้อย
- Focus on Strategy: ให้ทีมงานมีเวลาโฟกัสงานที่ AI ยังแทนไม่ได้ เช่น การวางแผนเชิงกลยุทธ์
⚠️ Risks and Limitations of AI
แม้ AI จะทรงพลัง แต่ผู้ประกอบการควรตระหนักถึงข้อจำกัดหลัก ๆ ดังนี้
- Data Inaccuracy (Hallucination): AI อาจสร้างข้อมูลผิดพลาด ต้องตรวจสอบก่อนใช้
- Bias: ข้อมูลที่ใช้ฝึก AI อาจมีอคติ เช่น เพศหรือการเมือง
- Transparency: ควรเปิดเผยว่าคอนเทนต์ใดมาจาก AI เพื่อความโปร่งใส
- Copyright Issues: ภาพจาก AI ยังไม่สามารถจดลิขสิทธิ์ในไทยได้ เว้นแต่ผ่านการดัดแปลงโดยมนุษย์
🤝 Human–AI Collaboration: The Smart Way Forward
หัวใจของการใช้ AI อย่างยั่งยืนคือ การทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์และเทคโนโลยี (Human-AI Collaboration)
Human Strengths
- Creativity & Innovation
- Contextual Understanding
- Strategic Thinking
AI Strengths
- Speed & Scalability
- Data Automation
- 24/7 Consistency
การผสมผสานจุดแข็งของทั้งสองฝ่าย จะสร้างศักยภาพทางธุรกิจที่ทรงพลังและแข่งขันได้ในยุค AI Economy
✍️ Prompt Writing Techniques for Better AI Results
การเขียน Prompt อย่างมีระบบคือหัวใจสำคัญของการใช้ AI ให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงใจ โดยแบ่งเป็น 5 องค์ประกอบหลัก
- Role: กำหนดบทบาทของ AI (เช่น “คุณคือ Content Creator”)
- Task: ระบุงานที่ต้องการให้ทำ เช่น “เขียนโพสต์โปรโมทสินค้า”
- Context: ป้อนข้อมูลเฉพาะของสินค้า แบรนด์ หรือกลุ่มเป้าหมาย
- Format: กำหนดความยาวหรือรูปแบบของผลลัพธ์ (เช่น ตาราง / บทความ)
- Tone: ระบุน้ำเสียง เช่น ทางการ สนุกสนาน หรือกระตุ้นยอดขาย
💬 Tip: เก็บ Prompt เหล่านี้ไว้ใน Template เพื่อใช้ซ้ำได้ในทุกแคมเปญ
🧠 สรุป: AI คือเครื่องมือ ไม่ใช่ผู้มาแทน
AI จะไม่มาแทนคน แต่จะยกระดับคนที่ใช้มันอย่างชาญฉลาด
ธุรกิจที่อยู่รอดในยุคต่อไป คือธุรกิจที่ “เข้าใจ AI และใช้มันสร้างคุณค่ามากกว่าความเร็ว”