
🤖 AI Creation: พลิกโฉมงานสร้างสรรค์ ประหยัดเวลาและต้นทุนมหาศาล

สรุป 9 อินไซต์สำคัญจาก “อัศวิน อัศวพิทยานนท์” — เมื่อ AI กลายเป็นเครื่องมือหลักของวงการครีเอทีฟ
ในยุคที่เทคโนโลยีเปลี่ยนโลกอย่างรวดเร็ว “AI” ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือของนักพัฒนาอีกต่อไป แต่ได้กลายเป็น ผู้ช่วยสำคัญในสายงานสร้างสรรค์ (Creative Industry) ที่ช่วยให้นักออกแบบ นักการตลาด และครีเอเตอร์ทั่วโลกทำงานได้ไวขึ้น ประหยัดขึ้น และคุณภาพสูงขึ้นกว่าเดิม
ในงาน TESE 2025 (Thailand E-Commerce Selection Expo)
คุณอัศวิน อัศวพิทยานนท์ (Atsawin Atsawapittayanont) ได้ถ่ายทอดแนวคิดสำคัญภายใต้หัวข้อ “AI Creation” ที่สะท้อนถึงการเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่ของวงการครีเอทีฟ และนี่คือ 9 ประเด็นสำคัญ ที่ธุรกิจควรรู้เพื่อใช้ AI อย่างมีประสิทธิภาพ
1. AI แก้โจทย์ความขัดแย้ง “ดี – เร็ว – ถูก” ได้พร้อมกัน
อดีตเรามักเลือกได้เพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง — งานดี, ราคาถูก หรือทำเร็ว
แต่วันนี้ AI สามารถทำให้ทั้งสามปัจจัยนี้เกิดขึ้นพร้อมกันได้ในเวลาเดียวกัน
ผลลัพธ์คือ งานคุณภาพสูง, ใช้งบน้อยลง และเสร็จภายในไม่กี่ชั่วโมง
2. ประหยัดเวลาการทำงานอย่างมหาศาล
AI ช่วยลดขั้นตอนในงานที่เคยใช้เวลานานถึง 2 สัปดาห์ ให้เหลือเพียงไม่กี่วัน —
เช่น งานที่เคยใช้เวลา 36 ชั่วโมง อาจใช้เวลาแค่ 1 ชั่วโมง ด้วยเครื่องมืออย่าง Midjourney, Runway, หรือ CapCut AI
3. จัดการภาพผลิตภัณฑ์ได้สมจริงกว่าที่เคย
AI สามารถจำลองการจัดแสง เงา และพื้นผิวของสินค้าได้อย่างแม่นยำ
รวมถึงการสร้างภาพสินค้าร่วมกับนางแบบเสมือนจริง (Virtual Model)
ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการจ้างทีมถ่ายภาพและสตูดิโอได้มากกว่า 70%
4. AI เข้าใจ “ความเป็นไทย” ได้ลึกขึ้น
เทคโนโลยีปัจจุบันสามารถสร้างภาพ ชุดไทยพระราชนิยม ได้ถูกต้องถึงรายละเอียด
ตั้งแต่ลายผ้า การห่ม และแสงตกกระทบที่สมจริงระดับมืออาชีพ
เป็นสัญญาณว่า AI กำลังเข้าใจ Cultural Design และ “อัตลักษณ์ไทย” มากขึ้น
5. วาด Layout แล้วให้ AI สร้างภาพตามได้เลย
ไม่จำเป็นต้องพิมพ์ Prompt ยาว ๆ อีกต่อไป
เพียงวาด Layout หรือ Sketch คร่าว ๆ แล้วอัปโหลดเข้าไป
AI จะจัดองค์ประกอบและสร้างภาพสมบูรณ์ตามที่เราต้องการภายในไม่กี่นาที
6. เครื่องมือจากเอเชียตอบโจทย์ภาพคนเอเชียมากกว่า
แพลตฟอร์มจากค่าย ByteDance (เจ้าของ TikTok/CapCut) เช่น “Kream”
สามารถสร้างภาพคนเอเชียได้ “เป็นธรรมชาติ” มากกว่าเครื่องมือจากตะวันตก
เหมาะสำหรับแบรนด์ในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ต้องการความสมจริง
7. สร้างผลงานใหม่โดยคง “DNA เดิมของแบรนด์”
AI สามารถรักษา สไตล์ สี โทน และคาแรคเตอร์ เดิมของแบรนด์ไว้ได้
เพียงใช้ภาพต้นฉบับเป็น Reference ก็สามารถสั่ง Generate งานใหม่ได้ต่อเนื่อง
เหมาะกับการออกแบบสินค้าซีรีส์ หรือแคมเปญที่ต้องการเอกลักษณ์เดียวกัน
8. ตรวจสอบ “Brand DNA” ก่อนใช้ AI
ไม่ใช่ทุกแบรนด์ที่ควรใช้ AI ใน “แนวหน้า”
ธุรกิจระดับ High-End, Fine Dining, หรือ Handcrafted Art
ควรใช้ AI เฉพาะในส่วน Back Office เช่น การวางคอนเทนต์หรือ Mockup
เพื่อไม่ให้เสียอัตลักษณ์และความพรีเมียมของแบรนด์
9. AI ครอบคลุมครบทั้ง “ภาพ เสียง และวิดีโอ”
วันนี้ AI ทำได้มากกว่าแค่ภาพนิ่ง —
สามารถสร้าง เสียงพากย์ภาษาไทย (Voiceover) ผ่านระบบเช่น Voicenetix
และแต่งเพลงประกอบผ่านระบบ UNO โดยไม่ต้องเสียค่าลิขสิทธิ์เพิ่มเติม
รวมถึงการสร้างวิดีโออัตโนมัติแบบสมจริงด้วย Runway AI
🔥 Key Takeaway: AI = ผู้ช่วย ไม่ใช่ผู้แทน
AI จะกลายเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ทีมครีเอทีฟทำงานได้เร็วขึ้น 5–10 เท่า
ประหยัดต้นทุนมากกว่า 80% และเปิดโอกาสให้ธุรกิจทุกระดับเข้าถึงงานคุณภาพสูงได้
